“พ่อแม่ไม่ใช่ แหล่งเงินฉุกเฉินของลูก
และลูกก็ไม่ใช่แหล่งเงินเกษ ียณของพ่อแม่”
#จงเก็บออมเพื่อตัวเอง
ทุกวันนี้พ่อแม่ส่วนใหญ่มัก เห็นความสำคัญกับการเก็บเงิ นให้ลูก แต่ลืมนึกถึงตัวเอง อาจเพราะเงินที่ต้องใช้เพื่ อลูกมันดูใกล้กว่า ต้องใช้ก่อน แต่กว่าจะถึงเวลาเกษียณของต ัวเองนั้นยังอีกหลายปี
เรามักเริ่มต้นชีวิตการทำงา นด้วยวัย 20 ต้นๆ กว่าจะถึงวัยเกษียณก็อายุ 50 กว่าหรือ 60 แล้ว เห็นด้วยไหมคะว่าด้วยระยะเว ลาทำงานเกือบ 40 ปีนั้น กว่าครึ่งหนึ่งก็เป็นช่วงที ่เราทำงานเพื่อลูก รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตั้งแต่ อนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย
หากช่วงครึ่งนึงของชีวิตการ ทำงาน ไม่เคยเก็บให้ตัวเอง ก็จะเหลือช่วงเวลาอีกครึ่งหนึ่งที่เรามีรายได้
หากเราบริหารจัดการ และวางแผนการเงินให้ดี เชื่อว่าน่าจะมีเงินพอไว้ใช ้หลังเกษียณอีก 20กว่าปี
ปัญหาคือ พ่อแม่หลายคนมีช่วงระยะเวลา ในการเก็บสั้นเกินไป หรือเก็บน้อยเกินไป และหวัง(เล็กๆ)ว่าลูกที่เรา เลี้ยงดูมาอย่างดีจะไม่ทอดท ิ้งเรายามแก่ชรา
แต่ปัญหาที่หนักกว่าคือ ลูกที่เราประคบประหงมมาอย่า งดีนั้นก็อยากดูแลเรานะ แต่ในสภาพเศรษฐกิจ สังคมปัจจุบัน ลูกก็ยังเอาตัวเองให้รอดได้ ยากเลย บางครั้งก็ต้องกลับมาหาเราพ ่อแม่นี่ละ (ไม่รู้ว่าเคยตัวหรือเปล่าน ะ)
แล้วเราจะทำยังไง แบ่งเงินค่ะ ลองนึกถึงเค้กปอนด์ก้อนกลม หากเราไม่ตัดก็ไม่รู้ว่าเรา จะกินเกินส่วนของตัวเองไหม หรือใครมากินส่วนของเราหรือ เปล่า
เรื่องเงินก็เช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน พ่อแม่ หรือลูก ก็ต้องอย่าลืม “แบ่งเงิน” หรือ “แบ่งชิ้นเค้กให้ตัวเอง” ด้วยนะคะ
และลูกก็ไม่ใช่แหล่งเงินเกษ
#จงเก็บออมเพื่อตัวเอง
ทุกวันนี้พ่อแม่ส่วนใหญ่มัก
เรามักเริ่มต้นชีวิตการทำงา
หากช่วงครึ่งนึงของชีวิตการ
หากเราบริหารจัดการ และวางแผนการเงินให้ดี เชื่อว่าน่าจะมีเงินพอไว้ใช
ปัญหาคือ พ่อแม่หลายคนมีช่วงระยะเวลา
แต่ปัญหาที่หนักกว่าคือ ลูกที่เราประคบประหงมมาอย่า
แล้วเราจะทำยังไง แบ่งเงินค่ะ ลองนึกถึงเค้กปอนด์ก้อนกลม หากเราไม่ตัดก็ไม่รู้ว่าเรา
เรื่องเงินก็เช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน พ่อแม่ หรือลูก ก็ต้องอย่าลืม “แบ่งเงิน” หรือ “แบ่งชิ้นเค้กให้ตัวเอง” ด้วยนะคะ