ควรเริ่มวางแผนการศึกษาบุตรเมื่อไรดี

KanyaweeR

KanyaweeR

นักวางแผนการเงิน CFP®

#ควรเริ่มวางแผนการศึกษาบุตรเมื่อไรดี

✏️ แพลนจะมีลูกปีหน้า เริ่มเก็บเงินค่าเทอมเลยไหม
✏️ ลูกยังไม่ถึงขวบเลย จะรีบวางแผนไปไหนกัน
✏️ ยังไม่รู้จะให้เรียนที่ไหนเลย เดี๋ยวค่อยวางแผนก็ได้เนอะ
✏️ ลูกโตแล้ว มีที่เรียนแล้ว ยังต้องวางแผนอีกหรอ

ประเด็นหลักๆที่มักออกมาจากปากคุณพ่อคุณแม่ที่อุ้ยได้มีโอกาสวางแผนการศึกษาบุตรให้

งั้นเราคงต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “วางแผนการศึกษาบุตร” คืออะไร

1. #กำหนดเป้าหมาย ว่าจะให้ลูกเรียนที่ไหน โรงเรียนรัฐบาล หรือเอกชน หลักสูตรไทย, EP หรือแบบอินเตอร์ จะส่งให้เรียนถึงระดับไหน ป.ตรี/โท ในไทย หรือต่างประเทศ หากคิดว่าแม่ขอส่งแค่ ป.ตรีละกัน ที่เหลือลูกไปขวนขวาย ทำงานส่งตัวเองเรียนหรือหาทุนเอง ก็ไม่ผิดใดใด ซึ่งเอาจริงๆปัจจุบันทุนเรียน ตปท. ก็มีมากมาย แต่บ้านที่อยากเตรียมให้ลูกจนถึงระดับสูงสุด พร้อมเงินก้นถุงไว้ทำธุรกิจหรือเพื่อต่อยอดอะไร ก็ไม่ผิด และมีเคสแบบนั้นจริงๆ

2. #ประมาณการค่าใช้จ่าย ลองประเมินตัวเลขค่าเทอม ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตลอดหลักสูตร หากแม่ๆคิดว่าอยากให้เรียนเสริมอะไร จะบวกเพิ่มไปด้วยก็ได้ แต่ที่สำคัญต้องไม่ลืมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งโดยเฉลี่ยจะปรับเพิ่มประมาณปีละ 5-6% บางรร. ก็ปรับน้อยกว่านี้ หรือบางแห่งปรับเกือบทุกปี จนถึงกับต้องไปจองตอนที่ลูกยังไม่คลอดด้วยซ้ำ เพื่อให้ได้สิทธิ์ค่าเทอมเรทปัจจุบัน ทีนี้เราก็จะเห็นตัวเลขคร่าวๆกันละ

3. #วางแผนการออมและลงทุน อาจจะแบ่งออมเงินเป็นก้อนๆตามระยะเวลาที่ต้องใช้เงิน เช่น ออมเงินในเงินฝากประจำปลอดภาษี หรือออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง สำหรับเก็บเป็นค่าเทอมเข้าอนุบาลในอีก 2-3 ปีข้างหน้า หรือ ออมในกองทุนหุ้น/หุ้น สำหรับเรียนป.ตรี ควรมีการกระจายการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยง หากเก็บในหุ้นอย่างเดียว พอถึงเวลาต้องใช้เงิน หุ้นตก พอร์ตแดง ลูกอาจไม่ได้เรียนตามตั้งใจ 😂

4. #ประเมินความเสี่ยง เพราะการศึกษาของลูกสำคัญ และผู้สนับสนุนทุนการศึกษาหลัก(อย่างเป็นทางการ) ก็คือเรา พ่อแม่นี่ละ ดังนั้นลองประเมินดูว่าหากวันนึงเราไม่อยู่ หรือทำงานไม่ได้ รายได้ไม่มี จะทำยังไง หรือจะมีคนในครอบครัวที่สามารถดูแลส่งเสียลูกเราได้ไหม และทรัพย์สินที่มีเพียงพอต่อค่าเทอม ค่าใช้จ่ายของลูกหรือเปล่า ถ้าไม่ ก็ต้องลองพิจารณาสร้างทุนประกันชีวิตเพิ่มเติม

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าเราจะได้วางแผนหรือไม่ การศึกษาของลูกก็ต้องใช้เงินอยู่ดี

ย้อนกลับมาที่คำถาม “ควรเริ่มวางแผนการศึกษาบุตรเมื่อไรดี” คงไม่มีคำตอบตายตัว แต่ถ้าเราเตรียมพร้อมแต่เนิ่นๆ รู้ก่อน ออมก่อน ลงทุนก่อน ก็จะได้เปรียบ เพราะเมื่อมีระยะเวลาที่มากพอ ก็มีโอกาสให้เงินได้ทำงาน คือ มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น (ดอกผลจากการลงทุน)

แม้จะยังไม่รู้เลยว่าจะเรียนที่ไหน เรียนอะไร แต่ #เตรียมก็ต้องใช้ #ไม่เตรียมก็ต้องใช้ ถูกไหม?? จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ถ้าจะบอกว่า #เริ่มได้เลยค่า #EducationPlanning

error: มีการป้องกันคัดลอกเนื้อหา