สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการวางแผนการศึกษาบุตร

KanyaweeR

KanyaweeR

นักวางแผนการเงิน CFP®

เมื่อรู้ตัวว่าเป็นคุณแม่แล้ว หลายท่านนอกจากจะต้องเตรียมมองหา รพ.เพื่อไปฝากครรภ์ ก็มีคุณแม่ไม่น้อยเลยที่เริ่มมองหาโรงเรียน เก็บข้อมูล หรือเริ่มเก็บออมเพื่อลูก อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งว่าเวอร์ไปไหม อันที่จริงแล้วในปัจจุบันมีหลายครอบครัวเลยที่เห็นความสำคัญของการวางแผนการศึกษาบุตร
:
คงไม่ปฏิเสธกันใช่ไหมคะว่าโรงเรียนในไทยก็ยังมีความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม ชื่อเสียง หรือแนวทางการเรียนการสอน ที่ที่คุณแม่ส่วนใหญ่ว่าดี ที่ที่คุณแม่ว่าเหมาะกับลูกเรา ที่ที่ลูกเราชอบ ที่ที่เราอยากให้ลูกเรียน จึงอาจจะเป็นที่เดียวกันก็ได้
:
แม้เรื่องการรับเด็กที่จำกัดในแต่ละโรงเรียนอาจเป็นหนึ่งปัจจัย แต่สิ่งสำคัญที่เราวางแผนเรื่องการศึกษาบุตรคือ ค่าเทอม หรือค่าใช้จ่ายที่มักปรับสูงขึ้น บางโรงเรียนปรับกันทุกปี ซึ่งหากเราไม่นำมาพิจารณาด้วย อาจทำให้เราเตรียมน้อยกว่าที่ควรจะเป็น กระทบเงินก้อนอื่นที่เตรียมไว้(ทำอย่างอื่น) เช่น เงินเกษียณเราเอง เงินทำธุรกิจ ที่แย่กว่านั้นลูกอาจจะต้องย้ายโรงเรียน หรือไม่ได้เรียนในสิ่งที่เค้าอยากเรียน
.
.

ลองมาดูเคสที่อุ้ยได้ไปแชร์ให้ฟังในงาน WDC Money Fest 2018 จะได้เห็นภาพว่าเงินเฟ้อเรื่องการศึกษามีผลมากเพียงไร

>> คุณเอ อายุ36ปี และคุณบี ภรรยาอายุ 32 ปี ต้องการวางแผนการศึกษาให้บุตรชายที่กำลังจะเกิดในอีก 3 เดือนข้างหน้า ค่าใช้จ่ายในโรงเรียนอนุบาลสองภาษาใกล้บ้านปีละ 90,000 บาท อยากให้ลูกชายเรียนระดับประถมและมัธยมที่โรงเรียนชายล้วนใจกลางเมืองเหมือนคุณพ่อ มีค่าใช้จ่ายประมาณปีละ 100,000 บาท และเรียนปริญญาตรีหลักสูตรอินเตอร์ในไทย ปริญญาโทในอเมริกา •••

หากเราบวกเลขตั้งแต่ลูกเริ่มเรียนอนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย จะต้องใช้เงินประมาณ 4.73 ล้านบาท แต่หากคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อการศึกษา เคสนี้ใช้เฉลี่ย 5% (แต่ละ รร.ไม่เท่ากัน) ต้องใช้เงินสูงถึง 11.97 หรือเกือบ 12 ล้านบาทกันเลยทีเดียว เคยถามบางครอบครัวว่ามีแพลนให้ลูกเรียนที่ไหน ตอบอย่างมั่นใจว่าอยากให้เรียน EP อยากให้เรียนอินเตอร์ที่นั่นที่นี่ แต่เมื่อเห็นตัวเลขแล้ว เริ่มไม่แน่ใจก็มีค่ะ การวางแผนการศึกษาช่วยให้คุณแม่เห็นภาพ ช่วยประเมินว่าเราไหวหรือเปล่า ช่วยให้เราวางแผนการเงินในเรื่องอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ


error: มีการป้องกันคัดลอกเนื้อหา