
เช้านี้นั่งรอลูกเรียนเปียโน ที่ร้านกาแฟแห่งนึง
วันนี้คนแน่นมาก แทบไม่มีที่นั่ง เหลือแค่สองสามที่ตรงโต๊ะยาวด้านหน้าเคาน์เตอร์ ตรงข้ามสองสาวที่นั่งติวกันอยู่ (ร้านที่คุณก็รู้ว่าร้านอะไร 😚)
ก็ไม่ได้จะตั้งใจฟังว่าเค้าเรียนเค้าสอนอะไรนะ ถ้าไม่หูหนวกตาบอด ก็รู้ว่าเค้าเรียนเคมีกัน “ของแข็ง ของเหลว ก๊าซ” ทำให้เห็นตัวเองเมื่อประมาณ 16-17 ปีก่อน ตอนนั้นเป็นนิสิต สอนเคมีเหมือนกัน มันจะมีงานอะไรที่เด็กวิดวะทำได้ ทำได้ดี แถมรายได้ก็ดี ..แต่เอาจริงตอนนั้นไม่ได้มองเรื่องรายได้ แต่มองว่า ชั้นทำได้(มากกว่า)
ประกาศในเวปรับสอน แพรบเดียวมีคุณแม่ติดต่อมาให้ไปสอนน้องที่บ้าน วันละ 3 ชม. ตอนนั้นคิดค่าสอนชม.ละ 200 วันนึงก็ 600 แต่เนื่องจากบ้านน้องไกล ต้องต่อรถ และเดินไปอีกนิดนุง คุณพ่อเลยใจดีให้ค่าเดินทางมาด้วยวันละ 100 เป็นรายได้จากการสอนคราวนั้น 7 วัน วันละ 700 สอน 11 วันช่วงปิดเทอม รับมา 7,700 บาท
ถ้าไม่นับช่วง ม.ต้น ที่ขายของเล็กๆน้อยๆสนุกๆให้เพื่อนบ้าง (ได้หลักสิบบาท) ก็มีอันนี้แหละที่เป็นกอบเป็นกำ เงินเยอะ ..ตอนนั้นภูมิใจมาก แต่ป๊ากับม้าน่าจะรู้สึกมากกว่า(เรา)
สิ่งที่ได้มากกว่าเงินทอง คือความมีวินัย เพราะต้องเตรียมการสอน ต้องแบ่งเวลา การทำงานช่วงเรียน เป็นการฝึกตัวเองได้อย่างดี สอนอยู่จนจบปี4 และก็เลิกไป
จนไปเรียนต่อ ตอนนั้นก็รู้อยู่อย่างเดียวว่าต้องตั้งใจเรียน ถือว่าเราโชคดีมีโอกาส ก็รู้ว่าต้องใช้เงินมาก และพอได้หาเงินเอง มันทำให้เราเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น ก็ไม่อยากฟุ่มเฟือย ไปถึงแรกๆก็หางานทำ นอกจากภาษาแล้ว ประสบการณ์ที่ได้คือสิ่งที่เราหาในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยไม่ได้ แถมได้ตังค์ใช้ด้วย แม้จะไม่มากอะไร แต่ก็พอเป็นค่าเช่าบ้านได้ ได้ช็อปได้เที่ยวบ้าง กวนป๊าแค่ค่าเรียน (ซึ่งเยอะกว่ามากๆ 555) จดไว้ตลอดว่าที่เรามาเรียนนี่ ป๊าโอนมาให้เท่าไรแล้วจนเรียนจบ
กลับมาไม่นาน ก็เริ่มทำงานที่แรก จำได้ว่าตอนสัมภาษณ์เค้าก็จะถามว่าเคยมีประสบการณ์ทำงานอะไรมาบ้าง แม้จะเขียนไว้แล้วใน resume ทั้งงานที่ได้เงินหรืออาสาสมัครช่วงเรียน แต่ก็คงอยากฟังเราเล่ามากกว่า …และเงินเดือนก้อนแรกที่ได้ ก็เอาไว้ซื้อของให้หม่าม้า และจากนั้นก็โอนให้ท่านทุกเดือน
ที่เล่ามาแค่จะบอกว่า รู้สึกชื่นชมเวลาเห็นน้องๆนั่งติวสอนพิเศษกัน ทำงานพิเศษในร้านอาหาร หรือช่วยพ่อแม่ขายของ แม้เราอาจจะต้องแบ่งเวลาส่วนตัวที่อยากทำอะไรก็ทำ นั่งนอนดูซีรีย์เกาหลียาวๆ หรืออดไปเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนๆ แต่การที่เราเสียสละเวลาปัจจุบันในตอนนี้ มันทำให้เราสบายในวันหน้าจริงๆ
=================================
การให้เงินลูกก็เหมือนการหยิบยื่นชิ้นปลาให้
การให้ลูกทำงานก็เหมือนการสอนให้เค้าหาปลาเอง
=================================
ถ้าเรามัวแต่หยิบยื่นเงินให้เค้า พอหมดก็ให้ใหม่ เค้าคงไม่รู้ว่าปลาที่ได้มานั้น มันได้มายังไง ยากแค่ไหน
📍เมื่อเค้าโตพอที่จะเรียนรู้ จงค่อยๆบอกค่อยๆสอนให้รู้จักอุปกรณ์ตกปลา แหล่งของปลา วิธีจับปลา วิธีนำปลามาทำอาหาร และวิธีถนอม เก็บรักษาปลา หากหาปลามาได้เยอะ แต่กินทิ้งกินขว้าง หรือไม่รู้วิธีเก็บ ปล่อยให้ปลาเน่า ก็น่าเสียดาย ว่าไหม ก็เหมือนกับคนที่หาเงินได้เยอะ แต่เก็บเงินไม่เคยอยู่ บริหารไม่เคยเป็น 😅
ฝากไว้นะจ๊ะ #ด้วยรัก