หลายวันก่อน มีโอกาสได้เจอคุณแม่ท่านนึง บอกว่ามีเงินสักก้อน
อยากลงทุน อยากเก็บเงินไว้ให้ลูกเรียน
เลยถามว่า คุณแม่แพลนการศึกษาให้น้องไว้ยังไงคะ
“ก็อยากส่งลูกให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้แหละค่ะ”
เคยมีประสบการณ์ลงทุนไหมคะ
“ก็มีแต่เงินฝาก สลากออมสิน ทองนิดหน่อย LTFลดหย่อนภาษี และก็ประกันค่ะ”
แล้วได้เก็บเงินให้ตัวเองไว้บ้างไหมคะ
“ก็มีบ้างค่า เก็บไว้อีกบัญชีนึง”
คุณแม่หันคอม หน้า excel ให้ดูรายการสินทรัพย์
โอ้ว เก็บเงินเก่งเหมือนกันนะคะ
“ไม่ค่อยได้ใช้หรอกค่ะ ทำแต่งาน เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว กลัวอีกหน่อย ทำงานไม่ได้
หรือเป็นอะไรไป ลูกจะแย่ อยากให้ช่วยจัดสรร ดูแลให้เป็นระเบียบมากขึ้นค่ะ”
เป็นกำลังใจให้จริงๆ กับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทุกๆคนค่าอุ้ยชื่นชมมากๆเลย เพราะลำพังตัวเองก็ไม่ง่ายแล้วในสังคมสมัยนี้
แต่นี่ต้องดูแลลูกไปพร้อมกับการทำงาน แถมเก็บเงินได้เยอะด้วย
.
.
เคสนี้ น้องเรียนโรงเรียนเอกชนแถวบ้าน ค่าเทอมไม่สูงเท่าไร
ตกปีละ 50,000 กว่าบาทคาดการณ์ตัวเลขค่าเทอม กว่าจะจบปรับด้วยเงินเฟ้อ
ที่นี่ ค่าเทอมขึ้นไม่แรงมาก บวกด้วยค่าเทอมมหาวิทยาลัยรัฐ ได้ตัวเลขออกมาก้อนนึง
นั่งดูไฟล์ที่คุณแม่สรุปมาอย่างเรียบร้อย (พนักงานบริษัท ฝ่ายไอที)
LTF ที่ถืออยู่ ถ้าไม่เอาไปใช้ ก้อนนี้พอครบอายุ ทยอยเอาไปลงกองทุนตราสารหนี้
และกองทุนตลาดเงิน ค่อยๆทยอยถอนมาใช้เป็นค่าเรียนมัธยม ได้อยู่
คำนวณเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) แล้ว เงินเกษียณยังขาดอีกจำนวนหนึ่ง
เลยให้ออมใน RMF เพื่อสะสมต่อให้ถึง และได้สิทธิลดหย่อนทางภาษีเพิ่มด้วย
เงินอีกส่วนลงใน SSF อีก12 ปี ทยอยขาย ลูกใช้เป็นค่าเรียนป.ตรี ได้สบายๆ
ได้สิทธิทางภาษีเพิ่มด้วย เงินเย็นในธนาคารส่วนนึงให้โยกมาลงกองทุนหุ้น และอสังหาฯ
เพื่อนำปันผลมาจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ และทำทุนชีวิตเพิ่มเติม
ถ้าคุณแม่ทำได้ตามแผน อีก 16 ปีข้างหน้าจะมีผู้หญิงเก่งอีกคนเกษียณได้ตามตั้งใจ
และตอนนั้นลูกสาวจะจบปริญญาตรีพอดี และหากมีเหตุหรือความเสี่ยงอะไรเกิดขึ้นกับคุณแม่
ลูกสาวจะมีเงินเพียงพอสำหรับเป็นทุนการศึกษา และค่าใช้จ่ายส่วนตัว
